พื้นที่เนื้อหาที่สำคัญต่อไปคือ หัวข้อย่อยด้านขวาของภาพ ซึ่งเป็นข้อความกระชับ บอกถึงคุณสมบัติและสรรพคุณของผลิตภัณฑ์ มันเป็นพื้นที่เล็กๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการตัดสินใจซื้อสินค้า
คำอธิบายสินค้า (Product Descriptions )
ให้คุณเขียนอธิบายผลิตภัณฑ์ของคุณ พยามใช้พื้นที่มากที่สุดเท่าที่มีในการบอกเรื่องจริงเกี่ยวกับแบรนด์ของคุณ บอกว่าอะไรที่ผลิตภัณฑ์ของคุณมีความแตกต่างจากคู่แข่ง ตรงส่วนนี้ส่วนที่จะบอกรายละเอียด เล่าเรื่องสินค้า ความเป็นมาของบริษัท กระบวนการผลิตที่สะอาด ทันสมัย พร้อมด้วยภาพประกอบเล็กน้อย ดังภาพ
รีวิว
Amazon พยามหัดให้นักช้อปออนไลน์นั้นอ่านรีวิวก่อนที่จะทำการซื้อสินค้า ซึ่งคุณจะได้รีวิวในทางบวกทั้งจากตัวสินค้าและตัวผู้ขาย และช่วยเพิ่มโอกาสในการขายมากขึ้น และรีวิวนี้จะเป็นเรื่องที่ถูกบอกต่อ
ทั้งนี้จากรายงานของ Amazon ระบุว่าจะมีผู้ซื้อ 10-20% เท่านั้นที่กลับมาเขียนรีวิวหลังจากซื้อสินค้าไปแล้ว และเราไม่สามารถบังคับผู้ซื้อให้เขียนรีวิวได้ความเห็นต่อสินค้าที่ซื้อไปได้
และตรงนี้เป็นทิปหนึ่งซึ่งจะช่วยเพิ่มยอดขายให้คุณได้ โดยให้คุณใช้ช่องทางอื่นอย่างโซเชียลมีเดีย ก็สามารถจัดแคมเปญให้ลูกค้านั้นมารีวิวบอกว่าชอบอะไรไม่ชอบอะไรได้ Amazon อนุญาตให้คุณแจกสินค้าเพื่อจูงใจให้ลูกค้ามาเขียนรีวิวได้โดยความเห็นต้องเป็นกลางทั้งข้อดีข้อเสีย แต่ Amazon ไม่ให้คุณแจกเพื่อให้มาเขียนรีวิวในทางบวกเท่านั้น ซึ่งการรีวิวนี้จะรวมถึงการรีวิวบริการของผู้ขายด้วยนอกจากสินค้า
และเพื่อจะลดโอกาสที่จะได้รับรีวิวที่เป็นด้านลบ คือการทำความเข้าใจสาเหตุที่ลูกค้าจะบ่น Complain มากที่สุด และปรับปรุงให้ดี อย่างเช่น
– สินค้าหมดสต๊อก
– สินค้าไม่มีคำอธิบาย
– จัดส่งล่าช้า
– ส่งสินค้าผิด
– กระบวนการคืนสินค้าที่ยุ่งยากซับซ้อน
ซึ่งลูกค้า Amazon มักจะต้องการการจัดส่งที่รวดเร็ว และได้สินค้าที่ตรงตามเสป็คที่ระบุได้คุณภาพมาตรฐาน โดยให้คุณบริการหลังการขายให้ดี อย่างส่งให้ใหม่โดยไม่มีค่าใช้จ่ายกรณีมีปัญหา จากกระบวนการเหล่านี้มากกว่าจะใช้วิธีลบความเห็นที่ไม่ดีออก
และคุณควรจะระวังในการรีวิวผู้ขาย Seller ที่เป็นด้านลบจำนวนมากอาจจะทำให้ Amazon ระงับบัญชีของคุณได้ด้วย
ที่มา: searchenginewatch
