ในอินเดีย Amazon ได้พยามเอาชนะข้อจำกัดในการลงทุนโดยตรงระหว่างประเทศ (FDI) ที่จำกัดการขายสินค้าโดยตรงแก่ลูกค้า ในเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว Amazon ได้เปิดตัวธุรกิจตลาดซื้อขายหลักในอินเดีย และเริ่มมีแท็บเล็ต Kindle E-reader ในรายการขายด้วย
Amazon เริ่มให้ความสนใจเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างชัดเจน เมื่อเดือนมิถุนายน 2013 โดยเสนอจัดส่งฟรีสำหรับสิงค์โปรที่สั่งซื้อสินค้ามูลค่าตั้งแต่ 125 ดอลลาร์ขึ้นไปโดยยังไม่รวมภาษี แต่ Kindle และ E-book ก็ยังคงไม่สามารถใช้งานได้ในสิงค์โปรอยู่ดี
ร้านค้า Amazon ออนไลน์จะไปได้ดีในเอเชียแค่เพียงมีข้อเสนอจัดส่งฟรีโดยไม่ต้องจำกัดสถานที่เท่านั้น ซึ่งแท็บเล็ต Kindle จะทำให้เกิดข้อได้เปรียบคู่แข่งและช่วงชิงความต้องการในส่วนนี้ของโลกได้ และเชื่อว่าต่อไปแท็บเล็ต Kindle จะมีราคาดีตามลำดับ และมี Position ในดีในตลาดอาเซียน
ในเดือนกันยายน 2013 บริษัท Amazon เปิดตัว Kindle Fire HDX ขนาด 7 นิ้ว และ 8.9 นิ้ว โดยแท็บเล็ต 7 นิ้ว จุ 16 GB เริ่มต้นราคา 229 ดอลลาร์ และ 329 ดอลลาร์ในรุ่นที่มี LTE ขณะที่รุ่น 8.9 นิ้ว มีหลากหลายราคาตั้งแต่ 349 ดอลลาร์หรือ 479 ดอลลาร์ในรุ่น LTE
GfK Asia report สังเกตพบว่าแท็บเล็ตบูมมากในอาเซียน โดยเติบโตเป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้วถึง 6.1 ล้านเครื่อง โดยแท็บเล็ตขายได้ 3 ต่อ 4 ของยอดขายโน๊ตบุ๊คในภูมิภาคอาเซียนทั้งหมด
ด้วยปัจจัยทั้งหมดเหล่านี้ทำให้ง่ายที่ Amazon จะเข้ามาสู่ตลาดอาเซียน แต่เค้ารออะไรหละ ?
เป็นไปได้ว่าเหตุผลที่ Amazon ยังคงไม่เข้ามา เพราะตลาดอาเซียนมีปัญหา Fragmentation หรือความหลากหลายของอุปกรณ์และระบบ Infrastructure ส่วนความสำเร็จในอินเดียและจีนนั้นไม่ง่ายตั้งแต่มีประชากรจำนวนมหาศาลนับพันล้านคน และอาเซียนรวมตัวกันจะใหญ่มากถึง 600 ล้านคน แต่แยกย่อยเป็นหลายประเทศอาจจะทำให้เกิดปัญหาด้าน Logistics และ กฎหมายของแต่ละที่
ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า Amazon นั้นพร้อมที่จะมุ่งเข้ามาในตลาดอาเซียน และผู้บริโภคจะขอบคุณมากที่บริษัทก้าวเข้ามา ซึ่งมันเป็นงานที่ยากในการนำเอาสินค้าที่มี Demand มากและระบบ E-commerce มาตั้งภูมิภาคนี้
และผู้บริโภคอยากให้ Amazon รู้ว่าเค้ารออยู่
ที่มา: thenextweb