คนทั่วไปมักเรียกวันที่โชคร้ายอย่างต่อเนื่องว่าเป็น “วันซวย” ของตัวเอง เพราะเป็นวันที่ปัญหาต่างๆ ปะดังปะเดเข้ามาเต็มไปหมดจนรับมือแทบไม่หวาดไม่ไหว
“ดูๆแล้ว “ความซวย” เหมือนเด็กนิสัยไม่ดีเลยนะครับ มันคอยจ้องจะแกล้งเราอยู่เรื่อย ยิ่งเราเริ่มพลาด มันก็ยิ่งสนุกรีบซ้ำเติมเราให้พลาดเพิ่มขึ้น วันซวยจึงเป็นวันที่น่าหงุดหงิดและชวนให้อารมณ์เสียอย่างมากสำหรับคนที่ต้องเจอ แต่คุณรู้ไหมครับว่าจริงๆแล้ว ตัวการที่ทำให้เกิดวันซวยไม่ได้อยู่ที่ไหนไกลเลย มันคือตัวของเราเองนั่นแหละครับ ที่ทำให้ทุกอย่างเกิดขึ้นโดยที่เราเองก็ไม่รู้ตัว”
ถ้าลองย้อนกลับไปดูจุดเริ่มต้นของวันซวย คุณจะพบว่าความซวยที่คุณเจอนั้น มันมีที่มาที่ไปแทบทั้งนั้น เช่น ตื่นสายจนเร่งรีบขับรถเพื่อไปทำงานให้ทัน เมื่อรีบร้อนก็ไม่ระวังเป็นเหตุให้รถชน หรือแม้แต่การที่อารมณ์เสียจากเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เผลอพูดจาไม่ดีกับลูกค้า จนหัวหน้าเรียกไปตำหนิและตักเตือนในที่สุด
ถึงจะมีบางเหตุการณ์ที่เรื่องมันเริ่มต้นด้วยเหตุสุดวิสัยจริงๆ แต่ถ้าคุณปล่อยให้ความรู้สึกแย่ๆนั้น ติดอยู่ในหัวทั้งวัน รับรองได้เลยครับว่าวันนั้นจะกลายเป็นอีกวันแย่ๆที่คุณไม่อยากนึกถึงเลยทีเดียว เพราะถ้าใจมัวแต่หงุดหงิดอารมณ์เสีย ก็จะทำนู่นทำนี่แบบใจลอยหรือมัวพะวงเรื่องอื่น ความผิดพลาดย่อมตามมาอย่างเลี่ยงไม่ได้แน่นอน ทีนี้ความซวยจะไม่เกิดขึ้นได้ยังไงล่ะครับ แถมมันจะไม่มาแบบปกติซะด้วย เพราะความซวยที่เราเรียกๆกันนั้น มันชอบมาเป็นลูกโซ่ครับ และสุดท้าย คนที่คุณจะโทษก็คือทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัว ยกเว้นตัวคุณเองเหมือนเดิม พอเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก ก็จะกลับมาวนลูปนี้อีกครั้ง ไม่จบไม่สิ้นซะที
“แต่ถ้าอยากเปลี่ยน ”วันซวย” ให้เป็น ”วันเฮง” ก็ไม่ยากเลยครับ ไม่ต้องใช้เวทย์มนต์หรือพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์อะไรเลย แค่คุณเตรียมตัวให้พร้อมและไม่ประมาทในทุกสถานการณ์เท่านั้น ก็เป็นวิธีดีที่สุดให้คุณรอดผ่านความซวยไปได้แล้วครับ”
แต่คุณต้องไม่ลืมที่จะทำใจให้สบายด้วยนะครับ เพราะมันจะไม่มีประโยชน์อะไรเลยถ้าคุณมัวแต่จินตนาการล่วงหน้าว่าจะต้องเจอเรื่องซวยๆอีกแน่ เพราะการทำแบบนั้นมันก็ไม่ต่างจากการสะกดจิตตัวเองให้เจอแต่เรื่องแย่ๆ ซ้ำเดิมไม่จบไม่สิ้น ยิ่งถ้าคุณกำลังอยู่ในอารมณ์โมโหอยู่ด้วยแล้ว ควรห้ามคิดห้ามพูดห้ามตัดสินใจอะไรทั้งนั้นครับ เพราะตอนที่เรากำลังโกรธนั่นแหละคือตอนที่เรากำลังขาดสติที่สุด
วันนี้จะเป็นวันซวยหรือไม่ โชคชะตาไม่ได้กำหนดครับ แต่มันอยู่ที่ตัวของคุณเองทั้งนั้น การเริ่มต้นวันด้วยเรื่องแย่ๆ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องนำไปสู่วันแย่ๆ เสมอไป เอาเข้าจริง มันก็แค่ทำให้คุณล้มจากเหตุการณ์หนึ่งเพื่อไปเจออีกเหตุการณ์หนึ่งเท่านั้น ส่วนมันจะเป็นวันซวยจริงหรือไม่นั้น มีแต่คุณเท่านั้นครับที่ตอบได้